พลังจิตรักษา

       พลังจิตรักษา  เพราะเหตุรักษาที่รวบรวมการปฏิบัติหลายสาขาเข้าไป         ผู้ฝึกยังได้ของแถมอีก  คือพลังจิตรักษา  พลังจิตรักษาคืออะไร  เพราะเหตุที่ศึกษาและปฏิบัติรอบรู้ในส่วนต่างๆ จึงผสมเอาพลังจิตรักษาเข้าไปด้วย  ผมศึกษาเรื่องพลังจิตรักษาและได้มาตอนฝึกจิตขั้นสูง        พลังจิตรักษานั้นเป็นพลังความดีเป็นการนำพลังความดี ในการให้ทาน และบริจาค  มารักษาโรคต่างๆ    เพื่อเป็นประโยชน์กับมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์จากโรคภัยต่างๆ ไม่เกิดโทษใดๆ ยิ่งทำยิ่งได้  ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์   พลังจิตรักษานี้ก็ใช้รักษาโรคต่างๆ และในต่างประเทศ ก็มีการสอนเป็นระบบเกี่ยวกับการสะกดจิตหรือใช้จิตรักษา  เหมือนให้เด็กอนุบาลมาสอนผู้ใหญ่  ในพระพุทธศาสนาของชาวพุทธเราสอนการฝึกจิตมากมาย  มีดาบอยู่ในมือแล้วเพียงแต่ไม่รู้จักวิธีการใช้ นอกศาสนาบางศาสนาเขาห้ามด้วยซ้ำ พุทธศาสนาเป็นหนึ่งในโลกเรื่องการฝึกจิต  จะมีศาสนาใดในโลกสอนให้เด็กนั่งสมาธิบ้าง      ด้วยเหตุที่ใช้พลังจิตรักษาไม่ได้เพราะนิวรณ์     เบื้องต้น  หากดับไปพลังจิตรักษาจะให้ผลเต็มที่  เพราะเป็นหัวใจของทุกสิ่งและเป็นองค์คุณแห่งโสดาบัน พระโสดาบันนั้นไม่เป็นบ้า ไม่ทำอนันตริยกรรม  ไม่มีปัญหาทางระบบประสาทเพราะแยกอารมณ์ได้  รู้จักวาง ไม่โดนไสยเวทย์ต่างๆ  พระโสดาบันจะมีพลังจิตคุ้มครองหรือพลังความดี  ไม่โดนภูตผีปีศาจสิงสู่     แม้แต่เทพเจ้าองค์ต่างๆ จะทำร้ายพระโสดาบันไม่ได้  มีคุณประโยชน์อีกมากมาย  ไม่มีส่วนใดเป็นโทษเลย      จะเรียกว่า  ปาฏิหาริย์แห่งความดีก็ได้  ปฏิบัติแล้วให้ผลแต่สุขเบื้องต้น  จนถึงตายจากโลกนี้ไป  ก็สู่สุคติภพโลกสวรรค์ผู้เขียนนี้ไม่ใช่หมอผีหรือเทพเจ้าองค์ใด จะต้องเสียทรัพย์เพื่อทำพิธีต่างๆ มีค่าโน่นค่านี่ ขอบอกว่าเป็นพุทธ-บุตรแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  อยู่ในธรรมหรือสัมมาอาชีวะ คือ เลี้ยงชีพชอบ    ทำความดีเพื่อความดี หากคิดว่าเพื่อหลอกลวงหรือลวงโลก ตัดทิ้งไปได้เลย  ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร  แต่ต้องลงมือทำเอง ผลต่างๆ ขอยกให้เป็นของผู้ปฏิบัติทุกๆ ท่าน    และเมื่อรักษาหายแล้วให้ปฏิบัติตัวเป็นคนดี  รักษาศีลห้า ทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป  อย่าหวังผลว่าจะรักษาหายทุกอย่าง คิดว่าเป็นของแถมในการปฏิบัติดี        การทำดีมีแต่ได้ไม่มีเสีย
พลังจิตรักษานี้  มี    ขั้น    คือ 
 ๑.  รักษาโรคทั่วๆ ไป   คือ  เมื่อฝึกแบบต่างๆที่ให้ไว้ เพราะรวมเอากสินไฟ  คือ   การจุดเทียนเข้าไปด้วยความร้อนจะปรับสมดุลแห่งธาตุ ธาตุไฟ คือ พลังรักษา  โรคหวัดอ่อนๆ จะหายด้วย  เหงื่อจะออกมาก   เมื่อกเสร็จให้อาบน้ำ  สุขภาพร่างกายจะแข็งแรง จะเห็นว่าตัวเองสุขภาพแข็งแรงขึ้น  ไม่ค่อยเป็นอะไร  ผู้เขียนนั้นแต่ก่อนก็เป็นหวัดบ่อย แต่เมื่อฝึกจิตรักษาแล้ว  ไม่เป็นหวัดอีกเลย หายขาด
๒.  รักษาโรคทางประสาทหรือสมอง  ฝึกไปเรื่อยๆโรคทางระบบประสาทต่างๆ จะลดลง เช่น ไมเกรน     โรคเครียดต่างๆ เพราะรวมเอาหัวใจแห่งโสดาบันเข้าไปด้วยรู้จักแยกอารมณ์  ปล่อยวาง         ขั้นสองนี้ผู้เขียนได้สอนน้องของผู้เขียนเอง  เพราะเขาเป็นโรคนี้  เครียด  ไมเกรน    บางครั้งปวดหัวมากถึงกับอาเจียน      นอนไม่ได้  สอนแล้วหายขาด  ถึงเป็นก็นิดหน่อย ไม่รุนแรงหายเองได้  แผลต่างๆ จะหายเร็วกว่าปกติ       จะรู้ได้เองและยังมีสมาธิอ่านหนังสือแล้วจำแม่น จิตจะตั้งมั่นได้เร็ว  ผู้เขียนนั้นอ่านพระไตรปิฎกทั้ง  ๔๕  เล่ม และไม่ปวดหัวเลย  หากรู้สึกมึนๆ ก็จะหยุด เปลี่ยนอารมณ์ให้คลายตัว แล้วก็อ่านต่อ ผู้ปฏิบัติจะรู้ตัวเอง
๓.  รักษาโรคขั้นรุนแรง  คือ  มะเร็ง  เอดส์ และโรคเกี่ยวกับเชื้อโรคต่างๆ    โรคมะเร็งนั้นในทางการแพทย์ คือ เซลล์แบ่งตัวผิดปกติ เกิดเนื้องอกขึ้นในส่วนต่างๆ ของร่างกาย สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกนี้  ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค  หรือเนื้อเยื้อ  มีความต้องการเหมือนๆ กัน  คือ   กลัวตายและต้องการเอาชีวิตรอด แต่การเอาชีวิตรอดของเซลล์ต่างๆ หรือเชื้อโรคต่างๆนั้นคือ การขยายพันธุ์ให้มากที่สุด เพื่อดำรงชีวิต  เชื้อโรคที่ร้ายแรงที่เบียดเบียนมนุษย์ได้มากและฆ่ามนุษย์และสัตว์ไปมากมาย คือ เชื้อโรคที่ปรับตัวได้เก่งหรือที่เรียกกันว่า  ดื้อยาหรือกลายพันธุ์  มนุษย์นั้นยิ่งเบียดเบียนยิ่งกลายพันธุ์          แต่มีสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ลืมไปว่าทุกๆ ชีวิตบนโลกจะไม่เบียดเบียนผู้ที่ไม่สมควรเบียดเบียน  นี่คือ    แก่นแท้จริงๆ แห่งพลังจิตรักษา  ในครั้งอดีตนั้นพุทธองค์เป็นผู้รอบรู้กว่าผู้ใดในการใช้พลังจิตรักษา มีโรคระบาดเกิดขึ้นไปทั่ว ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก   จึงสั่งให้พระอานนท์นำภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ไปสวดพระปริตร  ๗ วัน ๗ คืน  เมื่อถึงวันที่ ๗ นั้น   ปรากฎอัศจรรย์ขึ้น ฝนตกใหญ่ โรคระบาดเหล่านั้นหายไปและพุทธบุตร        ผู้รู้ข้อความในเหล่านี้       นำมาใช้กับการทำน้ำมนต์บ้างหรือปลุกเสกเครื่องรางของขลังบ้าง      หากได้อ่านเจอในปาฏิหาริย์อาจารย์ต่างๆ เคยเป็นที่อัศจรรย์ กับบุคคลแต่ละยุคสมัย นี่คือ แก่นแท้  ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในโลกใบนี้  หากผู้ใดกล่าวว่า รับมาจากพระธุดงค์ในป่าเขา   ผู้เขียนคือพระธุดงค์ที่ออกจาป่าเขา       ที่พิจารณาและรับรู้เรื่องพลังจิตรักษามาจากพระพุทธองค์ คือ พุทธบุตรที่แท้จริง  และพลังจิตรักษาของผมนั้นไม่เกี่ยวกับการกินยา คือ ให้เป็นเรื่องของแพทย์ผู้รักษา         ผู้มีประกาศนียบัตรรับรองในด้านต่างๆ ให้ยกการแพทย์นำหน้า ให้ถือเป็นองค์ประกอบ คือ ต้องไปตรวจก่อน มะเร็งให้ร็ว่าอยู่ส่วนไหน    เอดส์ให้รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า     หรือเชื้อโรคต่างๆ ต้องตรวจพบและรับการรักษาอย่างถูกต้อง ตามแบบแผนทางการแพทย์แต่ละสาขา     การแพทย์นั้นต้องศึกษาและค้นคว้า    และมีแบบแผนปฏิบัติสั่งสมมานาน ต้องเรียนมาเป็นขั้นๆ                  จนจบและมีประกาศนียบัตรทางการแพทย์รับรอง แต่พลังจิตรักษานั้นเป็นความรู้ยิ่งทางจิตจะให้ใครรับรอง  ไม่มีที่ไหนสอน    ได้มาเพราะปฏิบัติจนรู้ว่าเพราะอะไรและนำมาใช้รักษาซึ่งมนุษย์ทั่วไปเรียกว่า  ปาฏิหาริย์ผู้รู้ถึงแก่นแท้จริงๆ นั้นก็ต้องปฏิบัติจิตเป็นขั้นๆ       เหมือนกันและต้องรู้ว่าอดีต      คือ      ปาฏิหาริย์แห่งพระพุทธเจ้าปัจจุบัน คือ ปาฏิหาริย์แห่งพุทธบุตร  แต่อธิบายง่ายๆ คือ ปาฏิหาริย์แห่งความดี  หากมนุษย์คนใดที่บอกว่าใช้พลังจิตรักษา รักษาโรคเหล่านี้ได้    โอ้อวดสารพัด     ท่านทั้งหลายผู้มีปัญญา ผู้รู้ทางการแพทย์ก็คงถามเหมือนผม แล้วทำไมไม่ประกาศให้เป็นสากล  ออกมายืนยันทางการแพทย์และช่วยผู้คนมากมาย ผู้คนที่ได้รับความทุกข์เหล่านี้เกือบครึ่งโลก  จะหมกตัวอยู่ทำไม  ซ่อนเร้นปิดบังเพื่ออะไร     เพื่อเงินทองทรัพย์สมบัติงั้นหรือ  หรือเพื่อให้คนยกยอปอปั้นว่าเป็นอาจารย์หรือปิดบังเพราะไม่บริสุทธิ์ด้วยประการต่างๆ  หมอผี คนทรงเจ้า เทพเจ้าองค์ต่างๆ ทำไมต้องมาสิงมนุษย์เพื่อช่วยมนุษย์  แน่จริงทำไมไม่ลงมาตัวเป็นๆ มาสิงมนุษย์ให้กราบไหว้  แล้วมนุษย์เหล่านั้นเขาไม่คิดบ้างหรือไงนะว่าเทพเจ้ายังต้องมาสิงเขาเพื่อทำความดี เขาเหนือ กว่าเทพเจ้าเหล่านั้นอีก ทำเองเพื่อตัวเองไม่ดีกว่ารึ  ผมเป็นพุทธบุตรไม่ใช่หมอผี  เลี้ยงชีพด้วยสัมมาอาชีวะ (  ตอนนี้เป็นเพียงฆราวาสธรรมดา  ดูส่งท้าย  )  จะไม่ทำเรื่องแบบนั้น  และไม่ปิดบัง      ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพราะบริสุทธิ์ทั้งเบื้องต้น  เบื้องกลางและเบื้องสูง 
๑.  เบื้องต้น  คือ  ต้องทำความดี  เป็นคนดีเป็นผู้มีศีลธรรม   หากผิดแล้วรู้ว่าผิด คือกลับตัวแล้วหันมาสร้างามดีงามเพื่อผู้อื่น  คนชั่วไร้ศีลธรรม  ผิดศีล    ประจำ         อยากมีชีวิตอยู่เพื่อสนองกิเลสแห่งตนนั้นใช้ไม่ได้ เป็นปุ๋ยไปนะดีแล้ว หากจะตายแล้วยังสำนึกไม่ได้ก็เกินเยียวยาแล้วไปที่อื่นเถอะอย่ามาที่นี่  หากถามผมว่าเอาอะไรมาวัด  ผมก็ตอบว่าตัวท่านเองนั่นแหละวัด  ความดีหรือเลวนั้น  ปกปิดคนทั้งโลกได้   แต่ย่อมปกปิดตัวเองไม่ได้  โลกมนุษย์นั้นวัดกันที่ เงินทอง  หน้าตา  ยศศักดิ์  ความรู้     แต่โลกแห่งจิตนั้น เที่ยงตรงกว่า คือ วัดจากจิต ถามตัวเองว่าเป็นคนดีหรือเลวและตอบได้ก็พอ  เป็นสากล  นี่คือ  บริสุทธิ์เบื้องต้น
๒.  เบื้องกลาง  คือ  ต้องทำ ต้องปฏิบัติตามแบบแผนที่ให้ไว้    ส่วนแรกก่อน    เพราะอะไรก็เพราะจิตที่ยังมีนิวรณ์   ๕  ดังอธิบายไปมากอยู่  เป็นตัวกั้นความดี  ให้ลดทอนลง  จิตที่มีกามมาก  ความคิดร้าย     ความง่วงเซื่องซึม  ฟุ้งซ่านรำคาญใจ  ความลังเลสงสัย     จิตเหล่านี้จะบั่นทอนกำลังแห่งความดีเบื้องต้น     ด้วยเหตุนี้บางคนถึงใช้ได้และใช้ไม่ได้  การปฏิบัติธรรมนั้นก็เป็นความดีขั้นสูง  ไม่เสียหายอะไร      นี่คือ บริสุทธิ์เบื้องกลาง
๓.  เบื้องสูง  คือ  ไม่ว่าจะได้ผลรักษาผู้คนได้มากแค่ไหน  แต่จะไม่เอามาเป็นของตน  หรือปิดบังเพื่อรับเงินทองหรือให้คนยกยอปอปั้น ยกให้เป็นผลของผู้ปฏิบัติเอง  เพราะความดีที่สอนให้ไปทำนั้น  เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์เป็นสากลเป็นของพระพุทธองค์และผมก็เป็นพุทธบุตร           หากเป็นไปเพื่อเบียดเบียนคนอื่นแล้วจะไม่ทำเด็ดขาด  และทุกๆ คนก็ปฏิบัติได้เท่าเทียมกัน  ไม่แยก  จน  รวย  หล่อ  สวย  สูงศักดิ์  ต่ำศักดิ์ นี่คือ บริสุทธิ์เบื้องสูง    
มะเร็ง  คือ  เซลล์ที่แบ่งตัวผิดปกติ  เมื่อมีชีวิตก็หยุดยั้งได้ด้วยการทำตรงกันข้าม       คือ  รักษาตามอาการและใช้จิตมองดูว่าอยู่ส่วนไหนของร่างกาย เช่น  เต้านม  ปอด  สมอง  แตกต่างกันไป  และอุทิศในส่วนกุศลที่ทำได้จากการนั่งสมาธิหรือทำบุญต่างๆไปในส่วนนั้นแล้ว    อธิษฐานว่าขอบารมีแห่งพระพุทธองค์     พระธรรม  และพระสงฆ์  ขออุทิศส่วนกุศลต่างๆ ที่ได้ทำนี้  (  หากไม่รู้ก็รีบทำดูที่การทำบุญตามลำดับเอาส่วนที่มากที่สุด )  ไปให้แก่เซลล์มะเร็ง  หรือเชื้อโรคต่างๆ ขอสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอย่าพึงเบียดเบียนเราเลย   และเมื่อเราหายแล้วจะรักษาศีล ประกอบคุณงามความดี  เพื่อประโยชน์ของผู้คน     จะไม่ประกอบกรรมชั่วใดๆ อีกขอเซลล์มะเร็งหรือเชื้อโรคต่างๆ นี้ เมื่อได้รับส่วนบุญเหล่านี้ ขอจงออกจากกายเรา     อย่าพึงเบียดเบียนเราและที่สำคัญต้องทำให้บ่อยที่สุด และสิ่งใดที่เป็นที่มาแห่งความดีก็ใช้ได้หมด  พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้แต่เทอาหารที่เหลือลงไปในแม่น้ำ  เพียงหวังให้ปลากิน  ก็เป็นที่มาแห่งบุญแล้ว  เมื่อทำบุญแล้วรู้สึกอิ่มใจ  ปิติในบุญนั้นก็อธิษฐานเลย   ทำจนชินทำมากเท่าไหร่  บุญมากเท่าไหร่ผลก็จะไวเท่านั้น 
    โรคเอดส์ นั้นร้ายแรงกว่ามะเร็ง คือ สภาวะของภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง  ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา  ที่เป็นง่ายๆ และรักษาได้เองกลับเป็นรุนแรงจนถึงตายได้  การรักษาจึงซับซ้อนกว่า คือ  ต้องปฏิบัติจิตให้มากกว่าปกติ    ก็ทำเหมือนมะเร็งจะหยุดสภาวะของการลุกลามของโรคต่างๆ ก่อน กินยายับยั้งตามหมอสั่งและใส่พลังจิตรักษานี้เข้าไปด้วย ดังกล่าว  อาการต่างๆ จะไม่กำเริบหรือรุนแรง  จะช่วยยืดชีวิตออกไปได้อีก แต่จะให้หายขาดนั้นขอบอกว่ายาก  ต้องตั้งใจฝึกจิตขั้นสูงซึ่งรายละเอียดซับซ้อนมาก  ทำเบื้องต้นก่อน หากได้ผลเป็นที่อัศจรรย์ถึงจะมีความเชื่อว่าจะรักษาได้จริง     เบื้องต้นทำไม่ได้อธิบายก็กลายเป็นเกินจริง  จะไม่ขออธิบายเพิ่ม  ขอยกเรื่องหนึ่งมาอธิบายเพิ่ม คือ  มีคนป่วยโรคเอดส์รายหนึ่ง     หมอกำหนดวันตายแล้ว ก็แสวงหาการรักษาไปทั่วและได้ปฏิบัติธรรมเพื่อรออเวลาตาย เป็นผู้มีปัญญาก็รู้ว่าที่พึ่งอื่นใดไม่มีอีกแล้วในโลก  มีเพียงธรรมแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า       ปฏิบัติธรรมก็ได้เจอกับพระธุดงค์รูปหนึ่งเข้าเป็นผู้อยู่ป่า  เป็นพุทธบุตรที่แท้จริงและขอให้พระธุดงค์รูปนั้นช่วย  พระธุดงรูปนั้นก็บอกว่า      หากช่วยแล้วเธอต้องปฏิบัติธรรมและออกธุดงค์เป็นพุทธบุตรนะ  เพราะโลกนี้สำหรับเธอ    เธอได้ตายไปแล้ว  เธอจะเกิดใหม่ในฐานะพุทธบุตร  จึงรักษาให้และออกธุดงค์ไปพร้อมกันทั้ง    สองรูป     พลังจิตรักษาขั้นสูงนั้นไม่ได้หวงแต่ต้องตั้งใจจริง       และต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่กลับไปทำความชั่วใดๆ อีก  ถือศีล  ๕ ประพฤติธรรมเพื่อประโยชน์ของตัวเองและต้องมีชีวิตอยู่เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นด้วย จะไม่มีอะไรนอกจากนี้ หากบอกว่าต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะรักษาให้     ต้องขอบอกว่าท่านไปหาที่พึ่งอื่นเถอะ      ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาแตกต่างกันไป  ลงไว้เพียงโครงสร้างเท่านั้น  หากมีปัญหาต่างๆ ก็สอบถามได้ในส่วนถาม - ตอบ   ปรับปรุงตามสภาวะของบุคคลได้  สุดท้ายนี้ขอให้ข้อคิดสักนิดว่าดังนี้
       สมบัติทั้งหลายในโลก  หามาได้เท่าไหร่สุดท้ายก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี  แม้แต่กายเราเขาก็เอาไป เผาไฟ  เป็นเถ้าถ่านคืนสู่โลก มนุษย์ผู้โง่เขลา  แม้จะตายแล้วยังบอกว่าของเรา ของเราอยู่  ยกให้ลูกหลาน  บางครั้งก็ฆ่าหรือทะเลาะกันเพราะเหตุแห่งสมบัตินั้น        ผู้มีปัญญามองเห็นโลกแล้วสมควร  บริจาคเพื่อตัวเอง  เพื่อผู้อื่นแปรสภาพเป็นบุญกุศล  จะนำติดตัวไปใช้ได้ในโลกหน้า  มีเพียงความดีเท่านั้นที่เป็นแก่นสารที่แท้จริง  หากรู้ดังนี้ว่า  พุทธองค์เป็นที่พึ่งสุดท้ายแห่งเรา  ไม่ว่าใคร  ลูกหลานสมบัติเงินทองใดๆ ในโลกก็พึ่งไม่ได้เมื่อตายแล้ว   มาเถอะท่านทั้งหลายเราจะช่วย  เราคือพุทธบุตรที่แท้จริง  อย่าระแวงไปเลย  เมื่อเรากล่าวว่าเราบริสุทธิ์  ทั้งเบื้องต้น  เบื้องกลาง และเบื้องสูง  ก็เป็นจริงตามนั้น  พลังจิตรักษาแห่งเราบริสุทธิ์     มนต์ทั้งหลายแห่งเรา  คือ    ๑. มนต์เลือกเกิด  ๒.  มนต์ปราบมาร   ๓.  มนต์รักษา  ล้วนเป็นภูมิแห่งพุทธวงค์  หากจะถามว่าเราคือใคร   ให้รู้ไว้และประกาศให้คนทั้งหลายรู้ว่า     เราเกิดมาเพื่อช่วยผู้คนและโลก  แค่อยากช่วยและบอกทางออก จะทำหรือไม่ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลาย  บังคับไม่ได้          มีเพียงชื่อนี้เท่านั้น 
เราคือ  “...พุทธบุตรโพธิสัตว์... ”